ชาวมนุษย์เงินเดือน หรือชาวออฟฟิศก็คงจะหนีไม่พ้น “งานประชุม” “งานสัมมนา” และบางครั้ง คุณก็ต้องเป็นผู้จัดงานนั้น ๆ ซึ่ง “อาหาร” ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ที่จะทำให้งานออกมา “รุ่ง” หรือ “ร่วง” กันเลยนะ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะแอดปิ่นโตมีเทคนิคการสั่งข้าวกล่องสำหรับงานประชุม งานสัมมนา มาฝากกันแล้ว ตามนี้เลยยย
- เลือกเมนูข้าวกล่องที่หลากหลาย
แน่นอนว่างานประชุม งานสัมมนา จะมีผู้เข้าร่วมมากหน้าหลายตา ซึ่งแต่ละท่านเราก็ไม่รู้ว่าจะแพ้หรือเลี่ยงทานเนื้อสัตว์ประเภทไหนบาง ทางที่ดีคุณควรเลือกเนื้อสัตว์ไว้หลากหลายประเภท ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และอาหารทะเล รวมถึงการเลือกรสชาติที่ทานกันได้ทุกเพศทุกวัย ไม่เผ็ดและไม่จืดชืดจนเกินไปค่ะ
- ควรเลือกเป็นเมนูง่าย ๆ
ไม่ต้องยุ่งยากกันให้มากมาย เพียงแค่เลือกเมนูง่าย ๆ อย่าง “ข้าวผัด” “ข้าวไข่เจียว” “ข้าวผัดกะเพรา” ก็เป็นอันจบ เพราะคุณไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า ผู้เข้าร่วมงานประชุมหรืองานสัมมนามีเวลามากน้อยเพียงใด มีธุระต่อหรือไม่ การจัดข้าวกล่องเป็นเมนูง่าย ๆ ก็ช่วยร่นเวลาของทุก ๆ คนได้ดีนะคะ
- ข้าวกล่องต้องหน้าตาดีและรสชาติอร่อย
ข้อนี้นับว่าสำคัญมาก ๆ เลยล่ะค่ะ เพราะมีผลกระทบต่อผู้รับชอบมากทีเดียว ถ้าอาหารน้าตาดีและรสชาติอร่อย ทำให้ผู้เข้าร่วมงานพึงพอใจและผู้จัดงาน รวมถึงบริษัทนั้น ๆ ก็จะได้เครดิตที่ดีตามไปด้วย แต่ในทางกลับกัน อาหารหน้าตาแย่ บวกกับรสชาติไม่อร่อย ไร้คุณภาพ คงไม่มีใครพอใจแน่นอน งานที่ทุ่มเททำออกมาดี ๆ อาจดูแย่ไปเลยก็ได้นะ
- ควรสั่งข้าวกล่องล่วงหน้า
การสั่งข้าวกล่องล่วงหน้าจะช่วยลดภาระระหว่างผู้จัดงานและร้านอาหารได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ เพราะผู้จัดงานเองก็จะบริหารจัดการงานออกมาได้อย่างดี ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ส่วนร้านอาหารก็จะได้มีเวลาเตรียมตัว เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารให้ทันเวลา วิน-วินทั้งสองฝ่าย
- บริการจัดส่งที่ได้มาตรฐาน
ข้อนี้ก็ไม่ควรมองข้ามกันเลยนะ เพราะการจัดส่งอาหารที่ดี ได้มาตรฐานจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าอาหารจะส่งทันตามเวลาและอาหารไม่ได้รับความเสียหาย ควรโทรสอบถามกับทางร้านให้ชัดเจนไปเลย ใช้รถอะไรมาส่ง ใส่กันกระแทกหรือไม่ ถ้าเป็นอาหารประเภทเย็นมีกล่องเก็บอุณหภูมิมั้ย เพื่อความอุ่นใจของคุณกันนะคะ
- ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์
หลายครั้งเลยนะ ที่ทำเอาคุณต้องปวดหัวเมื่อข้าวกล่องมาส่งถึงมือ แต่กลับพบปัญหา ทั้งมีรอยรั่ว ปิดฝาไม่สนิท อาหารหกเลอะเทอะดูไม่น่ารับประทาน ผู้จัดงานควรกำชับกับทางร้านให้ดีเลยนะคะ
- ใบกำกับภาษี
หากคุณต้องการใบกำกับภาษีที่ถูกต้อง เพื่อง่ายต่อการทำเบิกจ่ายและไม่มีปัญหาภายหลัง ควรเลือกร้านอาหารที่สามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบให้คุณได้ รวมถึงการขอเอกสารรับรองจากทางร้าน เพื่อใช้ในการตรวจสอบว่าสามารถออกใบกำกับภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ ป้องกันปัญหาร้านที่เคยจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แต่ไม่ต่ออายุ ซึ่งทำให้คุณต้องมีปัญหาเรื่องภาษีย้อนหลัง กันไว้ดีกว่าแก้กันนะ
- เลือกร้านข้าวกล่องที่น่าเชื่อถือ
ข้อนี้ก็มีความสำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ๆ เลย การเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ จะช่วยเสริมความมั่นใจของคุณได้ว่า จะได้รับอาหารครบตามจำนวน จัดส่งได้มาตรฐาน ตรงตามวัน-เวลา รวมถึงรสชาติอาหารที่อร่อยกลมกล่อม ซึ่งจะดูว่าร้านไหนน่าเชื่อถือ ก็สามารถดูได้จากการจดทะเบียนการค้า หรือรีวิวของลูกค้า เพียงแค่นี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความคุ้มค่า